วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

10 สูตรวิธีรักษาสิวและทำให้หน้าใส ด้วยขมิ้นชัน

10 สูตรวิธีรักษาสิวและทำให้หน้าใส ด้วยขมิ้นชัน

สำหรับใครที่กำลังมองหาสูตร วิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติ หรือวิธีทำให้หน้าใสแบบธรรมชาติ…อย่าได้พลาดค่ะ วันนี้เราได้รวบรวมสูตรวิธีมากมายเกี่ยวกับการรักษาสิวด้วยขมิ้น รวมถึงสูตรหน้าใสด้วยขมิ้นมาฝากค่ะ ซึ่งเป็นสูตร เป็นภูมิปัญญาของคนสมัยแต่ก่อน สำหรับสาวๆ แล้วการใช้ขมิ้นทาผิวหน้าจะทำให้ผิวหน้านุ่มนวล คนมาเลเซียและคนไทยสมัยก่อนจะใช้ขมิ้นในการอาบน้ำ ทำให้ผิวผ่องยิ่งขึ้น วิธีการอาบน้ำด้วยขมิ้นนั้น จะทาขมิ้นหมักไว้ที่ผิวหนังสักพัก แล้วจึงขัดออกด้วยส้มมะขามเปียก นอกจากทำให้ผิวหนังนุ่มนวลแล้ว ขมิ้นยังมีสรรพคุณในการป้องกันการงอกของขน ผู้หญิงอินเดียจึงใช้ขมิ้นทาผิวหนัง เพื่อป้องกันไม่ให้ขนงอก คนพม่าเชื่อว่าถ้าใช้ขมิ้นผสมสมุนไพร ที่ชื่อทาคาน่า ทาผิวเด็กสาวตั้งแต่ยังเล็กๆ จะทำให้เนื้อผิวละเอียดสวยชนิดที่หนุ่มมองได้ไม่วางตาเชียวละค่ะ 

10 สูตรวิธีรักษาสิวและทำให้หน้าใส ด้วยขมิ้นชัน
10 สูตรวิธีรักษาสิวและทำให้หน้าใส ด้วยขมิ้นชัน
มารู้จัก ”ขมิ้น” กันเถอะ
“ขมิ้นชัน” เป็นพืชสมุนไพร และประโยชน์ของขมิ้นชันกับผิวนั้นไม่ได้แค่ต่อต้านหรือลดการอักเสบหรือรักษาสิวเท่านั้น แต่ยังใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัวเพื่อให้มีสีผิวกระจ่างขึ้นด้วยเมื่อใช้เป็นประจำและช่วยฆ่าเชื้อ ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดยังช่วยบำรุงให้สีผิวกระจ่างขึ้นด้วยเมื่อใช้เป็นประจำ ขมิ้นชันได้รับการยอมรับว่าช่วยลดการอักเสบและลดการระคายเคืองเมื่อนำมาใช้กับผิว อย่างที่รู้กันว่าสิวนั้นเกิดจากแบคทีเรีย P.acne ที่ทำให้เกิดการอักเสบหรือบวมแดงที่เราเห็น ซึ่งก็ได้มีการวิจัยว่าขมิ้นชันสามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ได้และสามารถผสมใช้ร่วมกับNeem oil, Tea Tree oil เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ยังมีการวิจัยอื่นที่บอกอีกว่าขมิ้นชันช่วยปรับสภาพผิวเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่มีการผสมขมิ้นชันในเครื่องสำอางที่ขายตามท้องตลาดมากมาย 

สูตรวิธีรักษาสิวและทำให้หน้าใส 

1 สูตรขมิ้นสด + ดินสอพอง + น้ำมะนาว
สูตรนี้ช่วยบำรุง: ผิวหน้าให้ผุดผ่องสดใสอ่อนวัย และช่วยให้สิวยุบเร็ว

ส่วนผสม
ขมิ้นสด (เล็กน้อย)
ดินสอพอง 2-3 เม็ด
มะนาว 1 ผล
วิธีทำ 
นำขมิ้นสดมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปั่นรวมกับดินสอพองและมะนาว จนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียวใช้สำหรับนำมาพอกกับหน้าที่สะอาดแล้วก่อนเข้านอน โดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกผิวหน้าสดชื่นและเต่งตึงขึ้นด้วย ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้งภายในเวลาไม่ถึงเดือนจะสังเกตเห็นว่าผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงจนสามารถสังเกตได้มะนาว จะทำให้ผิวนวลเนียนขึ้นสามารถสัมผัสได้ และเมื่อผสมรวมกันกับผักแว่น ก็จะยิ่งทำให้ผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 


2 สูตรดินสอพองผสมน้ำมะนาว หรือน้ำมะขามเปียก 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง และมีสิวเสี้ยน สูตรนี้สามารถเปลี่ยนจากน้ำมะนาวมาเป็นน้ำมะขามเปียกก็ได้ค่ะ 
ผลที่ได้ : จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มขึ้น รูขุมขนกระชับ และความมันลดลง ให้ผลเร็ว 1-3 วันเห็นผลแน่นอน สิวแห้ง ยุบลง

ส่วนผสม 
ดินสอพองสะตุ 3 - 4 เม็ดใหญ่
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
วิธีทำ 
นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียดด้วยภาชนะที่สะอาด ผสมน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน (มันจะกลายเป็นครีมข้นๆ)
ดินสอพองจะพองตัวขึ้นและมีฟองอากาศ นั่นเพราะดินสอพองกำลังทำปฏิกิริยากับกรดในน้ำมะนาวนั่นเอง 
จากนั้นทาครีมดินสอพองจนทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา หรือจะแต้มเฉพาะตรงที่หัวสิวก็ได้ค่ะ ทิ้งไว้ 15 - 20 นาทีหรือจะทาก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้าก็ได้ 
วิธีล้าง 
ให้ล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วใช้ผ้าเช็ดเบา ๆ บริเวณที่มีสิวเสี้ยน 
จากนั้นล้างอีกครั้งด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน 
ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง 


3 สูตรผงขมิ้นผสมกับน้ำมะนาว 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: ก็เป็นอีกสูตรที่ใช้กันเยอะ โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวเยอะมากบนใบหน้า พอลองใช้สูตรนี้แล้วพบว่า ช่วยลดอาการบวมแดงจากสิว สิวยุบเร็ว สิวและรอยสิวลดลง และหน้าเนียนขึ้นด้วย 

วิธีทำ
ผสมผงขมิ้นชันกับน้ำมะนาว หรือถ้าอยากให้ข้นสามารถผสมกับน้ำมันต่างๆได้และแต้มที่สิวก่อนนอน หรือจะพอกทั่วทั้งใบหน้าก็ได้ ถ้าหากคุณเป็นสิวบนใบหน้าเยอะมาก โดยไม่ต้องล้างออก ทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง หรือจนคุณทนไม่ได้เพราะเมื่อพอกแล้วมันจะรู้สึกแสบหน้าค่ะ แต่ถ้าทิ้งข้ามคืนได้จะดีมากกกค่ะ 


4 สูตรผงขมิ้นผสมกับน้ำนม หรือน้ำผึ้ง 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: ช่วยให้สิวยุบเร็วและช่วยบำรุงผิวหน้าให้ผุดผ่องสดใสอ่อนวัย 
ผลที่ได้ : ช่วยให้สิ้วเสี้ยนหลุด สมานผิวและรูขุมขนกระชับขึ้น ช่วยรักษาแผลที่เกิดจากสิวอักเสบ ไม่ให้เกิดเป็นแผลเป็น ทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม 

วิธีทำ
ครีมขัดและพอกหน้า นำขมิ้นผงผสมกับน้ำนม หรือน้ำผึ้ง จากนั้นล้างหน้า ให้สะอาดแล้วนำขมิ้นที่เตรียมไว้ขัดใบหน้าเบา ๆ จนทั่วพอกไว้อย่างนั้นประมาณ 5 นาที ล้างออกได้ด้วยน้ำอุ่น ๆ

หรืออีกวิธี คือ ใช้เหง้าขมิ้นสดมาหั่นบาง ๆ แล้วตากแห้ง นำมาบดเป็นผงให้ละเอียดผสมกับน้ำนมทาตัวเอาไว้ก่อนจะอาบน้ำทิ้งไว้ 10 - 20 นาที เป็นอย่างน้อย แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือตามด้วยการอาบน้ำชำระร่างกาย ผลที่ได้รับคือ ช่วยให้ผิวนุ่มนวลเนียน แก้โรคผดผื่นคัน หรือจุดด่างดำบนร่างกายให้หายไป 

5 สูตรขมิ้นชันสด 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: สำหรับคนที่ใช้ขมิ้นผงแล้วแพ้ เปลี่ยนมาใช้แบบสดดีกว่าค่ะ (เพราะเคยมีคนที่เกิดอาการแพ้ขมิ้นผง พอเปลี่ยนมาใช้แบบสดก็สามารถใช้ได้ไม่เกิดอาการแพ้ค่ะ) 
ผลที่ได้ : ผิวเนียนขึ้น สิวอุดตัน สิวอักเสบ หายหมดค่ะ 

วิธีใช้
- นำขมิ้นชันสดมาปลอกเปลือก แล้วนำไปปั่นแล้วเอาไปใส่กระปุกแช่ตู้เย็นไว้ค่ะ พอครบ 1 อาทิตย์ ก็ทำใหม่ค่ะ
- ใช้คอตต้อนบัด จิ้มๆ น้ำแล้วนำมาทาหน้า ก่อนล้างหน้า 10-15 นาที
- ควรใช้ตอนเย็น เพราะหน้าจะเหลือง ต้องล้างประมาณ 2 ครั้งถึงจะออกค่ะ 


6 สูตรน้ำผึ้ง 
“น้ำผึ้ง” มีสรรพคุณลดการอักเสบ และติดเชื้ออยู่ด้วย และเร่งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่น้ำผึ้งจึงใช้สมานบาดแผลชนิดต่างๆ 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: สูตรน้ำผึ้งนี้เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง แพ้ง่าย มะนาวอาจจะทำให้เกิดความระคายเคืองและแห้งมากขึ้น สูตรนี้จึงใช้น้ำผึ้งที่มีคุณสมบัติสมานผิวเข้ามาแทนที่ และยังเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยน้ำมันงา

ส่วนผสม 
ดินสอพองสะตุ 3 - 4 เม็ดใหญ่ 
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ช้อนชา
น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา 
วิธีทำ 
นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียด ผสมน้ำผึ้งและน้ำมันงา (หรือน้ำมันมะกอกก็ได้) คนให้เข้ากัน 
น้ำมาพอกให้ทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา 
ทิ้งไว้ 15 - 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 
หลังล้างหน้าจะมีความมันของน้ำมันงาหลงเหลืออยู่บ้าง 
หากไม่ชอบให้ล้างด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น 


7 สูตรน้ำนมขมิ้น 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: น้ำนมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และบวกกับขมิ้นที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แก้ผดผื่นคัน และบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งด้วย สูตรนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว

ส่วนผสม 
ดินสอพองสะตุ 4 - 5 เม็ดใหญ่
นมสด 2 ช้อนชา
น้ำขมิ้น 1 ช้อนชา
วิธีทำน้ำขมิ้น
นำหัวขมิ้นมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นแว่นแล้วตำจนแหลก 
ผสมน้ำเล็กน้อย กรองเอาน้ำด้วยผ้าขาวบาง
วิธีทำ 
บดดินสอพองสะตุจนละเอียด แล้วคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน พอกหน้าทิ้งไว้ 15 - 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด 


8 สูตรขมิ้นแห้ง 25 กรัม + ว่านนางคำ 200 กรัม + ไพล 50 กรัม + ดินสอพอง 1000 กรัม 
ส่วนผสม 
นำขมิ้นแห้ง 25 กรัม + ว่านนางคำ 200 กรัม + ไพล 50 กรัม + ดินสอพอง 1000 กรัม
วิธีทำ
นำมาบดผสมกัน ใช้พอกหน้า และตัวเพื่อบำรุงผิวได้ (ถ้าผิวมันใช้ผสมกับน้ำมะกรูดเผาไฟ ถ้าผิวแห้ง ใช้ผสมกับน้ำผึ้ง หรือ นมสด) ควรพอกประมาณ 5 - 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยน้ำเย็น สลับกัน 


9 สูตรดินสอพอง ผสมกับขมิ้น 
ขมิ้น มีสรรพคุณ ฆ่าเชื้อโรคอ่อน ๆ มันก็สามารถบรรเทาอาการสิวคุณได้

วิธีทำ
 นำดินสอพองมาผสมกับผงขมิ้น คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มที่หัวสิว แต่ถ้าจะเอามาพอกหน้า ควร ลด ขมิ้นผงลง เพราะคุณอาจจะกลายเป็น ดีซ่านได้ 


10 ดินสอพอง ผสมกับไพล
ไพล เป็น ญาติกับ ขมิ้น แต่ไพล มีสีเหลืองนวล อ่อนกว่า ขมิ้น
มีสรรพคุณช่วย บำรุงผิว ลดอาการระคายเคือง วิธีทำ นำดินสอพองมาผสมกับไพล คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มที่หัวสิว

วิธีทำ
นำดินสอพองมาผสมกับไพล คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มที่หัวสิว หรือนำไปพอกหน้าก็ได้

หวังว่าบทความนี้ คงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาสิว และมองหาวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาตินะค่ะ 
Read full post »

วิธีรักษาสิวเม็ดข้าวสารหรือสิวหิน พร้อมวิธีป้องกันการเกิดสิวซ้ำ

วิธีรักษาสิวเม็ดข้าวสารหรือสิวหิน พร้อมวิธีป้องกันการเกิดสิวซ้ำ

สิวเม็ดข้าวสารและการรักษา 
สิวหิน หรือ สิวเม็ดข้าวสาร (Milia) เกิดจากการรวมตัวของเซลล์ผิวที่ตายแล้วและไม่ยอมหลุดออกไป เมื่อไปรวมตัวกับไขมันที่ต่อมไขมันปล่อยออกมาบนผิวหน้า จึงเกิดลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็กนูนๆ บนผิวหน้า มีลักษณะเป็นสิวหัวปิด หัวสิวจะมีสีขาวหรือเหลืองเป็นส่วนใหญ่ ชอบขึ้นบริเวณรอบดวงตา โหลกแก้ม และจมูก  
วิธีรักษาสิวเม็ดข้าวสารหรือสิวหิน พร้อมวิธีป้องกันการเกิดสิวซ้ำ
วิธีรักษาสิวเม็ดข้าวสารหรือสิวหิน พร้อมวิธีป้องกันการเกิดสิวซ้ำ

วิธีการรักษาสิวเม็ดข้าวสาร

การกดสิว กดหรือเจาะบริเวณตุ่มขาว ๆ ออกมาให้หมด อาจทำโดยเอาเข็มขนาดเล็กสะกิดที่หัวสิวแล้วกดหัวสิวออกมา ฟังดูเหมือนจะทำได้ง่ายๆ แต่ลองทำจริงแล้วค่อนข้างยากเลยทีเดียว เนื่องจากสิวเม็ดข้าวสารจะมีลักษณะไตแข็งๆ อีกทั้งชอบขึ้นใต้ตาซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวบอบบาง จะบีบหรือกดออกก็ทำได้ยาก อาจทำให้เกิดแผลหรือผิวบอบช้ำได้ ดังนั้นอาจจะลองหันไปใช้บริการกดสิวที่คลินิกรักษาสิวทั่วไป ค่ารักษาไม่แพง แถมไม่อันตรายด้วย 

การรักษาด้วยเลเซอร์ การรักษาสิวหินด้วยเลเซอร์นั้น สะดวก รวดเร็ว แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นกัน 

การรักษาด้วยปูนแดง เป็นวิธีแบบบ้านๆ คือ การเอาปูนแดงมาแต้มตรงหัวสิวหินหรือสิวเม็ดข้าวสาร แต้มเช้า-เย็น ทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวสิวก็จะแห้งแล้วก็จะหลุดลอกออกมาเอง โดยไม่ต้องไปบีบหรือแกะสิว วิธีง่ายๆ แต่ได้ผลเหมือนกัน ดู วิธีการและข้อควรระวังของการกำจัดสิวหินด้วยปูนแดง 

การรักษาด้วยการดูแลผิวหน้า วิธีนี้จะเห็นผลในระยะยาว สิวเม็ดขาวสารจะค่อยๆ หมดไปและเป็นการลดโอกาสการเกิดใหม่ของสิว ดูคำแนะนำด้านล่างค่ะ 
วิธีการรักษาสิวเม็ดข้าวสาร

วิธีป้องกันรักษาไม่ให้สิวเม็ดข้าวสารกลับมาเกิดซ้ำขึ้นอีก

สาเหตุหลักประการหนึ่งของการเกิดสิวเม็ดข้าวสาร มาจากการใช้เครื่องสำอางที่ไม่ได้คุณภาพและการตกค้างของเครื่องสำอางที่ใช้เป็นประจำ การใช้เครื่องสำอางแล้วล้างหน้าไม่สะอาด ไปจนถึงการตากแดดในระยะเวลานาน ๆ จนผิวหนาและผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวได้ยากขึ้น ดังนั้นวิธีการการป้องกันรวมทั้งกำจัดไม่ให้สิวเม็ดข้าวสารกลับมาเกิดซ้ำควรทำดังนี้ 
  • ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวรอบดวงตาเพื่อช่วยลดจำนวนสิว
  • ลดการแต่งหน้าและการใช้เครื่องสำอางให้น้อยลง อาจเลือกใช้เป็นบีบีครีมแทนรองพื้น แล้วตามด้วยแป้งฝุ่นที่มีความบางเบาเพื่อช่วยลดการอุดตัน
  • ครีมกันแดดและเครื่องสำอางที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอมหรือสารระคายเคืองผิวเพื่อช่วยลดการเกิดสิวและการอุดตัน
  • ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด แต่หากมีความจำเป็นต้องออกแดดควรทาครีมกันแดด และควรเลือกครีมกันแดดจากธรรมชาติ อันประกอบด้วยสาร Titanium dioxide หรือ Zinc oxide ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว
การกำจัดสิวหิน หรือ สิวเม็ดข้าวสารออกจากผิวนั้น บางวิธีก็เป็นการกำจัดสิวได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานสิวก็จะกลับมาขึ้นใหม่อีก ดังนั้นทางที่ดีเพื่อเป็นการป้องกันรักษาในระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดสิวเม็ดข้าวสารขึ้นอีก ควรหมั่นดูแลความสะอาดบนใบหน้า ไม่ให้ผิวมันและมีสิ่งตกค้าง ตลอดจนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เหมาะกับผิว รบกวนผิวให้น้อยที่สุด และดูแลผิวตามคำแนะนำด้านบนกันนะค่ะ
Read full post »

วิธีกำจัดสิวเม็ดข้าวสารด้วยปูนแดง และข้อควรระวัง

วิธีกำจัดสิวเม็ดข้าวสารด้วยปูนแดง และข้อควรระวัง

วิธีการกำจัดสิวเม็ดข้าวสารด้วยปูนแดงนั้น แต่ถือว่า เป็นวิธีประหยัด ทำได้ง่าย อีกทั้งได้ผลดี ซึ่งการใช้ปูนแดงนั้นมีมาตั้งแต่อดีต ปูนแดงนอกจากจะใช้กินกับหมากแล้ว มักถูกนำมาใช้รักษาฝี แผล โรคผิวหนัง กำจัดไฝ และอื่นๆ อีกมาก
วิธีกำจัดสิวเม็ดข้าวสารด้วยปูนแดง และข้อควรระวัง
วิธีกำจัดสิวเม็ดข้าวสารด้วยปูนแดง และข้อควรระวัง
สำหรับสิวเม็ดข้าวสารหรือสิวหิน หรือ มิเลีย (Milia) นั้นมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ ส่วนใหญ่มีสีขาวหรือสีเหลือง พบได้ตามบริเวณรอบดวงตา โหนกแก้ม และบริเวณจมูก โดยสิวประเภทนี้อาจเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย

วิธีการกำจัดสิวหินด้วยปูนแดง

  • นำปูนแดงมาผสมน้ำนิดเดียวพอให้มีลักษณะข้นๆ (บางสูตรก็ใช้สบู่ที่ขูดเอาเนื้อสบู่มาผสมกับปูนแดง ก็ใช้ได้เช่นกัน)
  • ผสมเสร็จแล้ว เอามาแต้มตรงหัวสิว แต้ม 2-3 ครั้งต่อวัน (เช่น แต้มเช้า เย็น ก่อนนอน ก็ได้) แต้มทิ้งไว้ โดยไม่ต้องออกแรงกดหัวสิว สิวจะแห้งและหลุดออกไปเอง
  • แต้มหัวสิวสัก 1-2 วัน สิวจะยุบ บางครั้งหัวสิวจะกลายเป็นรอยเล็กๆ เเดงๆ ต้องปล่อยให้รอยเเผลหายเเล้วสะเก็ดเเผลจะหลุดเอง ห้ามเเกะ ห้ามเกาเป็นอันขาด

ข้อควรระวัง

  • ควรแต้มเฉพาะตรงหัวสิวเท่านั้น เพราะปูนแดงอาจจะกัดผิวส่วนอื่นให้เป็นแผลได้
  • ถ้ามีอาการแสบๆ ก็ให้แต้มทีละน้อย หรือแต้มบางๆ แทน
  • ไม่ควรทาทั้งหน้า หรือรอบหัวสิว ควรใช้วิธีแต้มเป็นจุดๆ ไป และแต้มตรงหัวสิว
  • ไม่ควรแต้มสิวที่ใกล้บริเวณรอบดวงตาเกินไป อาจเกิดอันตรายต่อดวงตาได้
  • ควรทดลองแต้มสิวสักหนึ่งจุดก่อนเพื่อดูว่าจะมีอาการแพ้ผิวเราหรือไม่ อีกทั้งเพื่อดูว่าจะได้ผลหรือไม่ หากได้ผลค่อยแต้มสิวจุดอื่นต่อ
การแต้มปูนแดงนั้น วันแรกๆ จะเป็นรอยเเดงนิดหน่อย เเต่วันต่อมาก็ดีขึ้น เเทบมองไม่เห็นรอย และสิวเม็ดขาวสารก็จะหาย ที่สำคัญคืออย่าพยายามแกะ เกา ตรงที่เราแต้มสิวเด็ดขาดเดี่ยวจะป็นแผลได้ ปล่อยให้สิวยุบและลอกออกเอง วิธีกำจัดสิวหินด้วยปูนแดงนี้ทำง่าย ประหยัด ลองนำไปทำกันดูนะค่ะ สำหรับปูนแดงก็หาซื้อได้ตามตลาดสด ร้านที่ขายหมากพลู ดอกไม้ เครื่องไหว้สักการะ หรือร้านขายของชำทั่วไป

Read full post »

วิธีรักษาสิวที่หลังและรอยดำ ได้ผลดีที่สุด ให้ผิวเกลี้ยงเนียนด้วยตนเอง

วิธีรักษาสิวที่หลังและรอยดำ ได้ผลดีที่สุด ให้ผิวเกลี้ยงเนียนด้วยตนเอง

วิธีรักษาสิวที่หลังและรอยดำ ได้ผลดีที่สุด ให้ผิวเกลี้ยงเนียนด้วยตนเอง
วิธีรักษาสิวที่หลังและรอยดำ ได้ผลดีที่สุด ให้ผิวเกลี้ยงเนียนด้วยตนเอง
คนส่วนใหญ่ก็อาบน้ำชำระล้างตัวสะอาดกันทั้งนั้นแหล่ะค่ะ แต่การเป็นคนมีเหงื่อออกมาก เมื่ออากาศร้อนทำให้รูขุมขนเปิดกว้างเกิดไปกระตุ้นทำให้เกิดสิวขึ้นมาได้ หรือแม้แต่บางคนเกิดจากการแพ้น้ำหอม สบู่ หรือเครื่องสำอางค์ก็มี เป็นต้น ดังนั้นถ้าอยากหายเป็นสิวที่หลังจริงๆ เพื่อนๆก็ควรทำความเข้าใจกับสิวที่หลังให้ถูกต้องก่อนนะค่ะว่าเกิดจากสาเหตุใด จะได้รักษาได้ตรงจุดและหายเป็นสิวที่หลังซะที
สาเหตุของสิวที่หลัง

จากฮอร์โมน การเกิดสิวที่หลัง สิวที่ใบหน้า และสิวทุกที่ตามร่างกาย มีสาเหตุอย่างเดียวกัน คือ การแปรปรวนของฮอร์โมนเพศในร่างกายเราเอง บางคนเป็นสิวที่หน้า แต่บางคนเป็นสิวที่หลัง บางคนเป็นสิวอุดตัน แต่บางคนเป็นสิวอักเสบ อันนี้ขึ้นตามพันธุกรรม โดยฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน จะทำให้ต่อมไขมันมีการทำงานมากผลิตไขมันมากอุดตันได้ง่ายขึ้น เพราะในร่างกายคนเรานั้นล้วนมีต่อมไขมันอยู่ทุกๆ แห่ง แม้แต่ที่หลัง ก้น หรือไหล่ ดังนั้นคนแต่ละคนจะมีสิวมากน้อยไม่เท่ากัน 
อาจเกิดจากเชื้อรา พี.โอวาเล ที่น่าจะเป็นสาเหตุหลักของสิวบริเวณแผ่นหลัง โดยปกติเชื้อราตัวนี้มีอยู่ตามผิวหนังของคนเราอยู่แล้ว แต่ที่ทำให้เกิดสิวบริเวณแผ่นหลังเพราะเชื้อรามีปริมาณมากกว่าปกติ ซึ่งถ้ามีปริมาณไขมันบริเวณรูขุมขนปรวนแปร หรือมีไขมันที่เชื้อราชอบจะเกิดการแบ่งตัวมากขึ้น เชื้อราอาจจะปล่อยสารบางอย่างออกมาไปย่อยไขมันทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะวัย หรือฮอร์โมนบางอย่างไปกระตุ้น เมื่อผ่านไปสักระยะสิวที่แผ่นหลังก็อาจหายไปเองได้ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะเหงื่อที่อาจไปกระตุ้นทำให้เกิดสิวบริเวณแผ่นหลัง 
ปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น 
         เหงื่อออกมาก แผ่นหลังของเรานั้นเป็นส่วนที่เหงื่อเกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ…เมื่ออากาศร้อนทำให้รูขุมขนเปิดกว้างเกิดไปกระตุ้นทำให้เกิดสิวขึ้นมา
         ความอับชื้น และความสกปรกต่างๆ จะทำให้สิวเป็นมากขึ้นได้ จากสาเหตุต่างๆ เช่น เสื้อผ้าหนาๆทำให้ร้อนอับ, เล่นกีฬา เช่นเล่นตอนเย็น แต่รอจนละครหลังข่าวจบค่อยอาบน้ำ, การสระผมล้างผมไม่สะอาด, ความสกปรกของผ้าเช็ดตัว/เสื้อผ้า/ผ้าปูที่นอน/ชุดนอน/หรือหมอนเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง
         สบู่/เครื่องสำอางค์ คือแพ้สบู่และเครื่องสำอางค์บางชนิด หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือไขมันเยอะเกินไปซึ่งเป็นอาหารของเชื้อรา หรือแม้แต่แพ้น้ำหอมที่ฉีดทุกวัน
         ผิวหนังระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ซักผ้า

วิธีรักษาสิวที่หลัง

วิธีรักษาสิวที่หลัง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคน และเป็นสิวมากหรือน้อยด้วยค่ะ เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจสามารถแบ่งวิธีหลักๆในการรักษาสิวได้เป็น 2 วิธี คือ
1) รักษาสิวอุดตัน สิวอักอักเสบ สิวเสี้ยน สิวผด สิวต่างๆ ให้ลดลงหรือควรให้หมดซะก่อน
2) ทำให้รอยสิวหาย และฟื้นฟูผิวให้กลับมามีแผ่นหลังที่เรียบเนียนสวย
วิธีรักษาสิวที่หลัง มีทั้งแบบที่ใช้ยาทาและยากินรักษาสิว แต่ส่วนตัวแอดมินแนะนำให้ใช้แต่ยาทาก่อนก็พอแล้ว ถึงแม้คุณจะเป็นสิวมากก็เถอะ เพราะขึ้นชื่อว่ายาก็เป็นสารปฏิชีวนะอย่างหนึ่ง กินมากๆก็มีผลต่อร่างกาย ยิ่งโดยเฉพาะที่ตับจะทำงานหนัก และสิวที่หลังสามารถเป็นๆหายๆได้ก็เหมือนกับสิวที่หน้าแหล่ะค่ะ ดังนั้นไม่จำเป็นก็ไม่ควรทานยาจะดีกว่านะ และต่อไปนี้คือวิธีรักษาสิวที่หลังและรอยดำที่ได้ผลดีจริงค่ะ…ยังไงก็ลองนำไปปรับใช้ดูนะ

1. ใช้โคลนมาร์กสิวเสี้ยน (ที่ใช้มาร์กหน้า) ทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ทาทิ้งไว้ให้ทั่วหลังแล้วลอกออก ตอนลอกออกสิวจะติดออกมาเยอะมาก

2. ใช้ดินสอพองกับมะนาว ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว นำน้ำมะนาวมาผสมกับดินสอพอง ไม่ต้องให้ข้นเกินไปนะค่ะ พอกบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วค่อยไปอาบน้ำล้างออก ดินสอพองช่วยลดการเกิดสิวและดูดซับสิ่งสกปรกออกไปจากผิวหนัง ส่วนน้ำมะนาวช่วยทำให้รอยสิวจางลงและผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกไป

3. ใช้ครีมมาร์กหน้าบำรุงผิว (จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมให้หลุดลอกออกไป ทำให้ผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง) ทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง นำครีมมาร์กหน้ามาผสมน้ำ แล้วทาให้ทั่วหลัง ทิ้งเอาไว้จนแห้ง แล้วก็ไปอาบน้ำล้างออก เช็ดตัวให้แห้ง

4. ใช้อ๊อกซี่ เคียว บอดี้ แอคเน่ สเปรย์ ฉีดบริเวณที่เป็นสิว หลังอาบน้ำ เช้า-เย็น ทุกวันค่ะ จนกว่าสิวจะหายจึงค่อยเลิกใช้ …บอกก่อนนะค่ะว่าฉีดสเปรย์ช่วงแรกๆนั้นจะแสบผิวอยู่บ้าง ปกติค่ะไม่เป็นไร แต่เราต้องอดทนค่ะ (เป็นสเปรย์ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิวและป้องกันสิวบริเวณแผ่นหลัง ลำตัว และหน้าอก ช่วยทำให้สิวแห้งเร็วและลดรอยดำจากสิว)

5. ให้ทายาแต้มหัวสิว กรณีที่เป็นสิวอักเสบมากหรือเริ่มมีหัวหนองขาว :ทาหลังอาบน้ำ เช้า-เย็น แต่ถ้าเป็นสิวผดไม่มีหนองอันนี้ยังไม่ต้องใช้ ยาแต้มหัวสิวที่หลังก็คือตัวเดียวกับที่เราใช้กับใบหน้าค่ะ ปัจจุบันมียาแต้มหัวสิวที่ได้รับการแนะนำและได้รับความนิยมอยู่หลายยี่ห้อ หรือจะใช้ตัว clindamycin แต้มบนสิวก็ใช้ดีค่ะ พอสิวเริ่มหายมันจะทิ้งรอยดำไว้

6. ใช้เกลือขัดผิว นำมาขัดหลัง เมื่อสิวแห้ง ควรขัดผิวสัปดาห์ละ 1ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว…การขัดผิวหรือสครับผิวนี้ สามารถทำได้ทั่วตัวเพื่อผิวที่เนียนนุ่มทั่วเรือนร่าง โดยเฉพาะที่บริเวณหลังหากเกิดรอยด่างดำจากสิว แต่ห้ามขัดผิวในขณะมีสิวอักเสบเป็นอันขาด! เพราะจะยิ่งทำให้สิวอักเสบลุกลามมากขึ้นค่ะ…ควรเลือกฟองน้ำหรือใยบวบนุ่มๆ และต้องสะอาด สิ่งสำคัญขัดถูแผ่นหลังเบาๆนะค่ะ ขัดเสร็จอาบน้ำให้สะอาด ซึ่งการขัดผิวก็เพื่อกำจัดรอยแผลเป็น เพราะการขัดผิวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ให้ผิวเรียบเนียน สดใสยิ่งขึ้น

7. บำรุงด้วยเจลว่านห่างจระเข้ (ช่วยรักษาให้แผลหายเร็ว ลดรอยสิวได้ดี และทำให้ผิวอ่อนนุ่มชุ่มชื่น) ทาเจลว่านห่างจระเข้ของวัสสันพอกไว้ สามารถทาได้ทุกวัน โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ

8. ทาผงแป้งศรีจันทร์…พอเจลแห้งแล้ว ให้ทาด้วยผงแป้งศรีจันทร์ ซึ่งช่วยลดผดที่หลังได้เยอะเลย

เพื่อนๆ ต้องใช้เวลาสักระยะประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสิวมากหรือน้อยด้วย และต้องทำควบคู่กับการดูแลตัวเองในขณะเป็นสิวที่หลังด้วย ก็จะยิ่งช่วยทำให้สิวและรอยดำหายเร็วขึ้นค่ะ สำหรับการดูแลตัวเองขณะเป็นสิวที่หลังและวิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวที่หลัง ได้เขียนเอาไว้อีกบทความ ซึ่งแอดมินได้ตั้งใจเขียนเรียบเรียงและอยากแนะนำทุกท่านที่เป็นสิวที่หลัง ที่เพื่อนๆสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ…
วิธีดูแลตัวเองขณะเป็นสิวที่หลัง และวิธีป้องกันการเกิดสิวซ้ำ

ดูแลรักษาสิวที่หลังตามนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะได้แผ่นหลังเรียบเนียนขาวสวยกลับมาแล้ว ทีนี้ก็พร้อมสำหรับแฟชั่นโชว์แผ่นหลัง หรือแม้แต่เสื้อกล้ามโชว์หลังเท่ห์ๆได้แล้ว แต่ที่สำคัญต้องมีความอดทนพยายามกันหน่อยนะค่ะ แล้วสิ่งที่คุณรอคอยรับรองว่ามันย่อมคุ้มค่าและภาคภูมิใจแน่นอน ^^
Read full post »

วิธีดูแลตัวเองขณะเป็นสิวที่หลัง และวิธีป้องกันการเกิดสิวซ้ำ

วิธีดูแลตัวเองขณะเป็นสิวที่หลัง และวิธีป้องกันการเกิดสิวซ้ำ

วิธีดูแลตัวเองขณะเป็นสิวที่หลัง และวิธีป้องกันการเกิดสิวซ้ำ
วิธีดูแลตัวเองขณะเป็นสิวที่หลัง และวิธีป้องกันการเกิดสิวซ้ำ
สำหรับวิธีรักษาสิวที่หลังและรอยดำที่ได้ผลดีจริงๆ เพื่อนๆสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่นะค่ะ:
วิธีรักษาสิวที่หลังและรอยดำ ได้ผลดีที่สุด ให้ผิวเกลี้ยงเนียนด้วยตนเอง

ในช่วงเวลาที่รักษาสิวและรอยดำอยู่ ก็อย่าลืมนำ 16 วิธีการดูแลตัวเองตามด้านล่างนี้ไปใช้ด้วยนะค่ะ สิวที่หลังและรอยดำจะได้หายเร็วขึ้น และได้ผลจริงๆ และเมื่อหายเป็นสิวแล้วก็อย่าลืมป้องกันการเกิดสิวที่หลังก็ตาม 16 วิธีด้านล่างนี้ละค่ะ จะได้มีแผ่นหลังขาวเนียน ไร้รอยด่างดำตลอดไป…ที่มีแนวทางในการดูแลรักษาและป้องกันสิวที่หลังอย่างถูกวิธีตามนี้ค่ะ ^_^
16 วิธีการดูแลรักษาตัวเองขณะเป็นสิวที่หลัง และวิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวที่หลัง

1. สำหรับคุณๆ ที่มีสิวที่หลังเป็นประจำ อย่าไปบีบหรือแกะเกาสิว และควรงดการขัดผิวแรงๆ ไม่ว่าจะด้วยสบู่หรือผลิตภัณฑ์ใดๆ เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่หลังได้ เพราะถ้าคุณเกิดแผลเป็นที่หลังแล้ว อย่างน้อยๆก็ครึ่งปีทีเดียวกว่าแผลเป็นเหล่านั้นจะจางหาย

2. การทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะน้ำตาลเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรีย เมื่อพอเราทานไปแล้ว ก็จะทำให้เกิดการอักเสบของสิวตามตัว

3. ควรอาบน้ำเช้า-เย็น สิวที่หลังมักเกิดขึ้นมาจากเหงื่อที่หมักหมม เพราะมีเชื้อแบคทีเรีย พยายามอาบน้ำทันทีที่กลับถึงบ้าน และขณะอาบน้ำควรฟอกสบู่ให้มากหน่อย เพราะเชื้อราที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวที่หลังตัวนี้ชอบไขมัน หรือน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิวหนัง ก็ใช้สบู่ให้มากขึ้น เพื่อล้างความมันออกไป เมื่อไม่มีอาหาร เชื้อราก็จะเจริญเติบโตน้อยลง 

4. ควรอาบน้ำเย็นในอุณภูมิปกติ เพราะการอาบน้ำอุ่นทำให้เกิดสิวที่หลัง…เมื่อผิวแห้งน้ำ ร่างกายจึงผลิตน้ำมันเพิ่ม สิวอุดตันก็เกิดขึ้น ถ้าอากาศไม่หนาวมากแนะนำให้อาบน้ำเย็นในอุณภูมิปกติจะดีกว่า

5. ใช้เจลอาบน้ำเด็กดีที่สุด หรือสบู่ก้อนสูตรอ่อนโยนก็ได้ ส่วนครีมอาบน้ำและสบู่ อาจทำให้เกิดสิวที่หลัง เพราะครีมอาบน้ำชำระล้างออกได้ยาก จนเกิดการอุดตันของรูขุมขนนำไปสู่การเกิดสิวขึ้นในท้ายที่สุด ส่วนสบู่มีความเป็นด่างทำให้ผิวแห้ง ต้องสร้างน้ำมันชดเชยกลับคืน เกิดสิวอุดตันและอักเสบตามมา ดังนั้น ให้ใช้เจลอาบน้ำเด็กดีที่สุด ไม่เกิดสิวอุดตันและผิวไม่แห้ง หรือใช้เป็นสบู่ก้อนสูตรอ่อนโยนก็ใช้ได้ดี

6. แชมพู และการสระผม อีกหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง เพราะ...บางยี่ห้อชุ่มชื้นเกินไป บางยี่ห้อเคมีเกินไป ดังนั้นใช้เป็นแชมพูเด็กจะดีกว่าหรือใช้แชมพูขจัดรังแคที่มี Ketoconazole จะดีมาก (เพราะสิวที่หลัง เกิดจากเชื้อรา) สำหรับการสระผม โดยเฉพาะสาวผมยาวนั้นควรสระผมเสร็จก่อน แล้วค่อยฟอกสบู่จะช่วยชำล้างร่างกายและแผ่นหลังได้สะอาดหมดจดกว่านะค่ะ

7. หลังอาบน้ำเสร็จให้เช็ดตัวและเป่าผมให้แห้ง ทุกครั้งก่อนที่จะสวมเสื้อผ้า ป้องกันการเกิดเชื้อรา ที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของสิวที่หลัง

8. ผ้าเช็ดตัวควรสะอาด ควรเปลี่ยนอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เป็นสิ่งที่มักมองข้ามกันนะ เพราะในการใช้แต่ละครั้งผ้าเช็ดตัวจะไปจับเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วตามร่างกาย รวมถึงแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังไปสะสมไว้ด้วย ดังนั้นโยนลงเครื่องซักผ้าไปเถอะ

9. สวมเสื้อผ้าที่สะอาด และเนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี เช่น ควรสวมเสื้อผ้าคอตตอนแทนเสื้อผ้าเนื้อหนาที่ระบายอากาศไม่ดี

10. ควรเปลี่ยนชุดนอนทุกวัน สำหรับบางคนที่สวมชุดนอน 2-3 วัน ซ้ำ โดยที่ไม่เปลี่ยน แนะนำให้ทำการเปลี่ยนชุดนอนทุกวัน เพราะเวลาที่เรานอน แผ่นหลังต้องสัมผัสกับชุดนอนอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดการอับชื้นสะสมแบคทีเรียและคราบสกปรกเอาไว้ เมื่อใส่ชุดนอนซ้ำๆ คราบสกปรกก็จะยิ่งสะสมมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้เกิดสิวที่หลังขึ้น

11. ปลอกหมอน ผ้าห่ม และผ้าปูที่นอน หมั่นเปลี่ยนบ่อยๆ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เป็นสิ่งที่เราต้องสัมผัสเป็นเวลานานในแต่ละวัน หากไม่ทำความสะอาดบ่อยๆก็จะเกิดการสะสมของสิ่งสกปรก และเชื้อแบคทีเรียได้

12. กรณีที่ผิวแพ้ง่าย ให้ใช้น้ำยาซักผ้าเด็ก เพื่อลดโอกาสเกิดการระคายเคืองของผิวหนังและลดการเกิดสิวที่หลัง

13. ให้เลือกครีมกันแดดออยล์ฟรี เพราะว่าสิวที่หลังนั้นเกิดจากเหงื่อและไขมันตามรูขุมขน ทำให้เกิดสิวขึ้นมา การที่เราใช้ครีมกันแดดที่ไม่มีไขมันนั้นช่วยทำให้ไขมันผสมกับเหงื่อน้อย ทำให้เกิดสิวได้ยากขึ้น

14. ใช้ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวสูตรธรรมชาติที่ไม่มีไขมัน จะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของสิว

15. ควรงดใช้น้ำหอมช่วงนี้ เพราะอาจเกิดจากการแพ้น้ำหอมที่ใช้อยู่

16. จริง ๆ แล้วไม่จำเป็น ไม่อยากให้ใช้ยาชนิดรับประทาน เพราะอย่างไรขึ้นชื่อว่ายาก็เป็นสารปฎิชีวะนะอย่างหนึ่งกินมากๆก็มีผลต่อร่างกายค่ะ และสิวที่แผ่นหลังอาจเป็นๆหายๆได้ จึงอยากให้ใช้ยาทามากกว่านะค่ะ
Read full post »
 
© 2012 วิธีรักษาสิว ครีมรักษาสิว ครีมหน้าใส เคล็ดลับหน้าใส ผิวขาวเปล่งปลั่ง . Designed by Nitin Maheta, Powered by Blogger